ลักษณะทางธุรกิจของเรา เปิดโอกาสให้กับนักลงทุนที่มีความสนใจและตั้งใจจริง
ที่จะเป็นผู้ประกอบธุรกิจการให้บริการในด้านต่างๆ โดยมีการให้บริการด้านธุรกิจไปรษณีย์ เป็นหลัก
1. ให้บริการด้านรับ-ส่งไปรษณีย์ แบบครบวงจร ไปรษณีย์ลงทะเบียน, ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) , พัสดุไปรษณีย์, ธนาณัติ ฯลฯ
2. ให้บริการด้านการรับจ่ายค่าบริการของหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงรับชำระบิลต่างๆ ด้วย เช่น ค่าน้ำประปา, ค่าไฟฟ้า, ค่าโทรศัพท์พื้นฐาน, ค่าโทรศัพท์มือถือทุกระบบ, ค่าผ่อนชำระค่าสินเชื่อ ฯลฯ
ผลตอบแทนที่ท่านจะได้รับ
รายได้จากการทำไปรษณีย์ นั้น รายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจบริการต่างๆภายในร้าน และจากการขายสินค้า ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนร่วมกับเรามีดังนี้
1. ผลตอบแทนจากการ รับส่งพัสดุไปรษณีย์, จดหมายลงทะเบียน, จดหมายและพัสดุด่วนพิเศษ (EMS) และธนาณัติ ค่าบริการในส่วนนี้ถือว่าเป็นรายได้หลักของการเปิดไปรษณีย์เอกชนก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าผลตอบแทนที่ได้ต่อหน่วยอาจไม่สูงนัก แต่เป็นรายได้ที่มั่นคง เพราะจะมีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการส่งของภายในร้านอย่างต่อเนื่อง ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยประมาณ
10-100% ของค่าธรรมเนียมบริษัทไปรษณีย์ไทย
2. ผลตอบแทนจากการ รับชำระค่าบริการ ปกติแล้วนั้น หากนักลงทุนนั้นได้ตัดสินใจที่จะลงทุนทำธุรกิจรับชำระบิลกับ แฟรนไชส์ อื่นๆ นั้น ท่านจะต้องเดินทางไปชำระบิลต่างๆ ด้วยตนเองหรือไม่ก็ต้อง จ้างพนักงานส่งเอกสารไปชำระให้ ต้องเดินทางไปหลายที่ เช่น การไฟฟ้า การประปา ธนาคาร บริษัทมือถือ ฯลฯ ซึ่งทางเราจะเป็นผู้แนะนำช่องทางในการทำงานในด้านนี้เองเพื่อให้ท่านได้ปฏิบัติงานอย่างสะดวกสบายขึ้น
3. การทำธุรกิจเสริม ร่วมกับการเปิด ไปรษณีย์เอกชนได้ ได้แก่
3.1 ธุรกิจถ่ายรูปด่วนดิจิตอล
3.2 ธุรกิจถ่ายเอกสาร, รับส่ง, แฟกซ์ ,เคลือบบัตร, เข้าเล่ม ฯลฯ
3.3 ธุรกิจรับเติมหมึกพิมพ์ของเครื่องพิมพ์แบบ INKJET
3.4 ธุรกิจจำหน่ายบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ
3. 5 ธุรกิจอัดรูปดิจิตอล
3. 6 ธุรกิจทำของที่ระลึก
ลักษณะทางธุรกิจของ จุดชำระเงิน
ให้บริการด้านการรับจ่ายค่าบริการของหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงรับ ชำระบิลต่างๆ
มีสองลักษณะ คือแบบ Offline และแบบ Online
ผลตอบแทนที่ท่านจะได้รับ
สำหรับค่าตอบแทน หรือรายได้ของผู้ให้บริการจุดรับชำระเงินนั้นจะมาจากค่าบริการที่เรียกเก็บจากลูกค้าที่มาจ่ายบิล โดยมีอัตราการเรียกเก็บดังนี้
1. ค่าไฟฟ้า ค่าประปา (ไม่เกินกำหนด) 10 บาท
2. ค่าไฟฟ้า ค่าประปา (เกินกำหนด) 20 บาท
3. ค่าโทรศัพท์พื้นฐาน TOT, TRUE 15 บาท
4. ค่าโทรศัพท์มือถือ AIS, DTAC, TRUE MOVE(ORANGE), HUTCH 15 บาท
5. ค่าผ่อนสินเชื่อ และบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆ (ยกเว้นตามข้อ 7.) 15 บาท
6. ค่าบริการ UBC 15 บาท
7. ค่าผ่อนสินเชื่อ CAPITAL OK และ QUICK CASH 20 บาท
บริการของ เรา,บริการที่เรามีก่อนที่นักลงทุนจะเริ่มลงทุนกับเรา
- ให้ข้อมูลแบบตรงไปตรงมา
- ไม่ปิดบังและไม่ให้ข้อมูลเกินความเป็นจริง
- ช่วยพิจารณา ดูทำเล ที่ตั้ง ที่นักลงทุนมีความประสงค์ที่จะลงทุนตามความเหมาะสม
บริการหลังการขาย
- สอนการใช้โปรแกรมบริการไปรษณีย์
- สอนการให้การบริการจุด ชำระเงิน
- อบรมพนักงานในร้านของท่านให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปรึกษาปัญหา ในการดำเนินงานได้ตลอดอายุ
- แนะนำและหาช่องทางที่จะนำรายได้เสริมให้แก่ท่านนักลงทุน
- มีระบบช่วยเหลือระยะไกล
ทำไมต้องลงทุนกับเรา
ปัจจุบันมีผู้ที่เข้ามาลงทุนทำธุรกิจไปรษณีย์เอกชนค่อนข้างมาก ซึ่งมีทั้งแบบตั้งเดี่ยวๆ (Stand alone) และ แบบแฟรน์ไชส์ (Franchise) จึงมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง แต่ในบางพื้นที่
ธุรกิจนี้ก็ยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากอยู่เนื่องจากข้อจำกัดของ บริษัทไปรษณีย์ไทย ซึ่งมีการเปิด-ปิด ในเวลาที่ตรงกับเวลาทำงานของผู้บริโภคทั่วไป ดังนั้นธุรกิจนี้จึงยังมีโอกาสที่จะเติบโตต่อไปได้อีกในอนาคตสำหรับธุรกิจไปรษณีย์เอกชนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์ แบรนด์ไหนก็ตาม ในทางกฎหมาย ก็เป็นได้แค่เพียง ผู้รวบรวมไปรษณียภัณฑ์เพื่อนำส่งเท่านั้น ไม่ใช่ว่าท่านจะเป็นไปรษณีย์เสียเอง ดังนั้นการซื้อแฟรนไชส์ ท่านจึงไม่จำเป็นจะต้องเสียเงินมากมายเกินความจำเป็น เพื่อลงทุนในธุรกิจนี้
การจะเริ่มทำธุรกิจอะไรสักอย่างโดยไม่มีความรู้เลยนั้นเป็นเรื่องยาก แต่สำหรับเรา เราได้เตรียมความพร้อมในการทำธุรกิจไว้ให้กับนักลงทุนที่เข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจกับเรา ด้วยประสบการณ์ที่เรามี ด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย ด้วยระบบงานและซอฟท์แวร์ที่เราเตรียมพร้อมไว้รองรับ ท่านนักลงทุนจึงมั่นใจได้อย่างเต็มที่ เมื่อทำธุรกิจร่วมกับเรา
การประมาณราคาจุดคุ้มทุน
ธุรกิจไปรษณีย์ มีรายได้มาจาก การคิดค่าบริการเพิ่มจาก อัตราค่าบริการของทางไปรษณีย์ไทย คิดเป็นร้อยละ 10-100 % ของค่าบริการไปรษณีย์ไทย
หากอยู่ในทำเล เช่น นิคมอุสาหกรรม, ชุมชนใหญ่หรือตลาดใหญ่, จุดต่อรถต่อเรือที่มีผู้คนคับคั่ง,แหล่งงานอาคารสำนักงานและหมู่บ้าน เฉลี่ยแล้วประมาณ
งานการส่ง จดหมาย 60 ฉบับ = 300 บาท
จดหมายEMS 60 ฉบับ = 300 บาท
พัสดุ 150 ชิ้น = 3750 บาท
พัสดุEMS 150 ชิ้น = 12000 บาท
ธนาณัติ 200 ครั้ง = 5000 บาท
ธนาณัติ ออนไลน์ 200 ครั้ง = 6000 บาท
สิ่งตีพิมพ์ 150 ฉบับ = 2250 บาท
การจำหน่ายอุปกรณ์ ประมาณ = 3000 บาท
รวมเฉพาะงานไปรษณีย์ รายได้โดยประมาณ 32600 บาทต่อเดือน
ธุรกิจจุดชำระเงิน มีรายได้มาจากการเรียกเก็บค่าบริการในการนำจ่าย
ในกรณีจะยกตัวอย่างเป็นหมู่บ้านใหญ่ ประมาณ 3000 หลังคาเรือน
ค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคหลักมี 3 บิลต่อ 1 หลังคาเรือน คือ ค่าน้ำ ,ค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์
ฉะนั้นบิลที่ต้องชำระมีอยู่ถึง 9000 บิล หากรับบิลได้แค่เพียง 60% = 5400 บิล
ทั้งนี้ยังไม่รวมบิล ค่าบัตรเครดิต และโทรศัพท์มือถือ
คิดค่าบริการบิลละ 10 บาท ท่านจะมีรายไดโดยประมาณ 54000 บาทต่อเดือน
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของท่านหลังจากการเซ็ตอัพร้าน
1. ค่าเช่า ไม่ควรจะเกิน 20000 บาท
2. ค่าจ้างพนักงานหน้าร้าน 1 คน 6500 บาท
3. ค่าจ้างพนักงานวิ่งเอกสาร 1 คน 6500 บาท
4. ค่าน้ำไฟในร้านโดยประมาณ 1000 บาท
5. ค่าภาษีป้ายต่อปีประมาณ 1000 บาท
6. ค่าน้ำมันสำหรับพนักงานส่งเอกสารโดยประมาณ 3000 บาท
ค่าใช้จ่ายในแต่ระเดือนประมาณ 37000 บาทต่อเดือน |